การอักเสบของสิวเกิดจาก การอักเสบคู่แบบปราศจากเชื้อ (Dual Sterile Inflammation) คือการอักเสบจากการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันโดยกำเนิด (innate immunity) ซึ่งไม่ใช่เรื่องของการติดเชื้อ (Infection) ร่วมกับขบวนการอักเสบของการเกิด และหายของแผล (Wound Healing Process) ขบวนการนี้มีลักษณะที่ต่อเนื่องแบบเรียงซ้อนกัน (Cascading) โดยเริ่มจาก

1. สารตัวกระตุ้น (Cytokine)
ที่สร้างจากต่อมไขมันจะกระตุ้นตัวรับสัญญาณ (Toll-like Receptor) ทำให้เซลล์เม็ดเลือดขาวตัวที่ 1 (Lymphocyte) เข้ามาทำให้เกิดสิวอักเสบไทป์ 1 (Acne Type 1) ซึ่งการอักเสบจะเกิดแบบน้อย จึงทำให้เกิดอยู่เป็นเวลายาวนานของสิวชนิดนี้ หรือที่เรียกกันว่า สิวอุดตัน

2. ต่อมาเกิดมีการรั่ว (Leakage)
ที่ส่วนบนของท่อรูขุมขน (Infundibular Duct) เป็นแผลใต้สิวเล็กๆเกิดมีสารกระตุ้นเซลล์เม็ดเลือดขาวตัวที่ 2 (Monocyte) ทำให้เกิดสิวอักเสบไทป์ 2 (Acne Type 2) การอักเสบที่มีลักษณะรวดเร็วและจบสิ้นในเวลาที่สั้น 2-3 วัน หรือ สิวปุ๊บปั๊บ แต่หากการอักเสบไม่หมดไป ก็จะเกิดการกระตุ้นต่อเนื่องทำให้เกิดเป็นสิวอักเสบไทป์ 3 หรือ 4

3. กรณีของสิวอักเสบไทป์ 3 (Acne type 3)
หรือที่เรียกกันว่าสิวอักเสบ จะมีแผลใต้สิวขนาดใหญ่ (Major Rupture) ที่บริเวณส่วนกลางของท่อรูขุมขน เกิดการกระตุ้นเซลล์เม็ดเลือดขาวตัวที่ 3 (Neutrophil) ทำให้เกิดการอักเสบที่รุนแรงในบริเวณกว้าง และกินเวลานาน

4. ส่วนสิวอักเสบไทป์ 4 (Acne type 4)
หรือสิวหัวช้าง จะมีแผลใต้สิวขนาดใหญ่มาก (Major Rupture) ที่บริเวณส่วนล่างของท่อรูขุมขน เกิดการกระตุ้นเซลล์เม็ดเลือดขาวตัวที่ 3 (Neutrophil) จำนวนมากขึ้น ทำให้เกิดการอักเสบที่รุนแรงมาก กินบริเวณกว้างและลึก ก่อความเสียหายต่อผิวหนังที่รุนแรงและยาวนานกว่าสิวอักเสบไทป์ 3

แนวทางการรักษาต่างๆ ตามแต่ละชนิด เน้นเรื่องจำนวน สิวเปรอะ/สิวประปราย

เป้าหมายในการรักษาสิวเปรอะ ต้องเร่งลดความรุนแรงและจำนวนของสิวให้น้อยลงให้ได้มากที่สุด ในกรณีที่รักษาได้ไม่หมดภายใน 8-12 สัปดาห์ ก็จะต้องลดจำนวนให้เหลือเป็นสิวประปราย (Locallized) เพื่อลดความเสียหายต่อผิว เนื่องจากจำนวนสิวที่มาก การอักเสบก็จะมากตามไปด้วย ต้องทำให้ยุบเร็วเพื่อลดจำนวนให้มากที่สุด การรักษาที่มีประสิทธิภาพจะต้องลดการอักเสบได้ทั้งตัวสิวเองและสมานแผลใต้สิวควบคู่กันไปจึงจะได้ผลดี ซึ่งคุณสมบัติที่ว่านี้มีใน ผลิตภัณฑ์ Anti Acne Type 3 และ Absolute Anti Negative 4 ทั้งนี้จากการวิจัยพบว่าการใช้ผลิตภัณฑ์นี้ มีผลทำให้สิวอักเสบยุบราบใน 7 วัน ได้ผลมากถึง 95% หรือยุบราบลง 9 ใน 10 เม็ด ในขณะที่การใช้ผลิตภัณฑ์ที่รักษาสิวเพียงอย่างเดียวได้ผลเพียง 75% หรือยุบราบลง 7 ใน 10 เม็ด ดังจะเห็นว่าได้ผลแตกต่างกันมากถึง 20% นอกจากนี้การรักษาควรจะต้องทำการกดสิวอุดตันออกอย่างสม่ำเสมอร่วมด้วยทุก 1-2 สัปดาห์ เพื่อควบคุมและลดปริมาณลง ทั้งยังป้องกันการอักเสบไม่ให้ลุกลามจะเป็นการเร่งให้สิวหายภายในระยะเวลาที่กำหนด

เป้าหมายในการรักษาสิวประปราย ควรใช้ผลิตภัณฑ์เร่งรักษาให้สิวอักเสบยุบราบใน 3 วัน และยุบเรียบใน 7 วัน เพื่อลดโอกาสเกิด รอยแดง รอยดำ และแผลใต้สิว รวมถึงควบคุมไม่ให้สิวลุกลามและกลับมาเป็นซ้ำ

เลขที่ใบจดแจ้ง : 11-1-6400007837
ปริมาณ / อายุสินค้า : 20 มล./ 24 เดือนหลังจากวันที่ผลิต
คุณสมบัติ :โลชัน 2 in 1 ที่เป็นทั้งตัวป้องกันและเสริมการรักษา รวบลัดขั้นตอน การรักษาสิวที่ยุ่งยากให้จบในหลอดเดียว ช่วยให้ผิวหน้าเรียบเนียน ไร้เม็ดสิว ป้องกันการอุดตัน การเกิดสิวเม็ดใหม่ และตัดวงจรการอักเสบ สามารถใช้ควบคู่กับผลิตภัณฑ์ป้องกันสิว ประเภทอื่นๆได้
วิธีใช้ :ใช้หลังทำความสะอาดผิวหน้า ทาโลชันให้ทั่วบริเวณใบหน้า วันละ 2 ครั้ง เช้า – เย็น โดยไม่ต้องล้างออก เนื้อโลชันจะซึมเข้าสู่ผิวหน้า สามารถทาโลชันซ้ำในระหว่างวันได้

เลขที่ใบจดแจ้ง : 11-1-6400007837
ปริมาณ / อายุสินค้า : 10 กรัม/ 24 เดือนหลังจากวันที่ผลิต
คุณสมบัติ :ดูแลปัญหารอยแดง รอยดำจากสิวด้วยนวัตกรรม Cell Signaling โดยการนำคุณค่าจากสารธรรมชาติที่ทำหน้าที่เป็น RED SPOT SIGNAL BLOCKER ช่วยสกัดกั้น (Block) สัญญาณหรือกระบวนการเกิดรอยแดง รอยดำจากสิว จึงดูแลปัญหารอยแดง รอยดำจากสิวให้จางลงได้เร็วขึ้นเมื่อใช้เป็นประจำและถูกต้อง
วิธีใช้ :ทาครีมบริเวณที่เป็นรอยแดง รอยดำจากสิวบนใบหน้า วันละ 2 ครั้ง เช้า – เย็น