โรคสังคัง (Tinea Cruris) หรือเชื้อราที่ขาหนีบ ปัญหาโรคผิวหนังของนักกีฬา
ปัจจุบันคนไทยออกกำลังกายด้วยการวิ่งกันมากขึ้น จึงขอเล่าเรื่องปัญหาผิวหนังที่พบบ่อยในนักวิ่ง ซึ่งได้แก่ เล็บห้อเลือด ตุ่มน้ำใสพองที่ผิวหนัง ตาปลา ภาวะเท้าดำ ผิวแตกลาย ผิวหนังติดเชื้อโรค ผิวแพ้สัมผัส เช่นเดียวกับที่พบในนักกีฬาอีกหลายชนิดดังที่กล่าวไปแล้วในฉบับเดือนสิงหาคม นอกจากนี้นักวิ่งยังพบปัญหาผิวหนังอย่างอื่นอีก
โรคสังคัง (Tinea Cruris) หรือเชื้อราที่ขาหนีบ พบบ่อยในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง เป็นโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อรา ทำให้ผิวหนังบริเวณขาหนีบเกิดอาการคัน แดง หรือเป็นขุยได้
สาเหตุ
เกิดจากการติดเชื้อราในกลุ่มเดอมาโทไฟท์ (Dermatophytes) ซึ่งโดยปกติจะเป็นเชื้อราที่อาศัยอยู่บนผิวหนังของคน แต่เมื่อพบกับความชื้นหรือหมักหมมจะทำให้เชื้อราชนิดนี้เติบโตและทำให้เกิดอาการคันได้
EAZI Soothing Gel อีซี่ ซุทติ้ง เจล ไม่มีเสตียรอยด์ พร้อมฟื้นฟูผิวบอบบาง ให้กลับมาชุ่มชื้น ผิวแลดูสุขภาพดี
โรคสังคัง มักเกิดจากคนที่ใส่เสื้อผ้าอับชื้น หรือไม่สะอาดเป็นเวลานาน โดยเฉพาะนักกีฬา ผู้ที่ชอบสวมใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่น หรือสวมเสื้อผ้าสกปรกซ้ำหลายครั้ง ไม่รักษาสุขอนามัยของร่างกายหรือมีปัญหาสุขภาพบางอย่าง เช่น ระบบภูมิคุ้มกันผิดปกติ เป็นโรคเบาหวาน เป็นโรคอ้วน รวมถึงการสัมผัสเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่มอื่น ๆ ที่มีเชื้อราโดยตรง หรือใช้สิ่งของที่ติดเชื้อราร่วมกับผู้อื่น รวมถึงการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ป่วย
อาการ
เกิดผื่นแดงรูปวงกลม หรือจันทร์ครึ่งเสี้ยว และคันในบริเวณที่อับชื้น เช่น ขาหนีบ ต้นขาด้านใน บั้นท้าย อวัยวะเพศ ผื่นแดงมีขอบนูนชัดเจน มีตุ่ม หรือเป็นแผลตุ่มหนองพุพอง
หากอาการรุนแรงในผู้หญิงอาจมีอาการตกขาวผิดปกติได้ ส่วนผู้ชายอาจเกิดการติดเชื้อที่องคชาตและอาจก่อให้เกิดการบวมแดง อักเสบ ผิวหนังแตก แผลเปิดได้
การรักษา
ใช้ยาทาเชื้อราในร่มผ้าอย่างโคลไทรมาโซล และดูแลความสะอาดของเสื้อผ้า อย่าใส่เสื้อผ้าที่อับชื้นเป็นเวลานาน และเลือกใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ง่าย หากว่าออกกำลังกายก็ให้เลือกเสื้อที่แห้งไว เพื่อลดความอับชื้น
นอกจากนี้ ให้หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีส่วนผสมของน้ำหอม แอลกอฮอล์ กับผิวบริเวณขาหนีบ ข้อพับ เพราะอาจจะทำให้ระคายเคือง และเกิดการอักเสบมากขึ้น
การป้องกันโรคผิวหนังของนักกีฬา หรือผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำ
ชอบออกกำลังกาย แต่ไม่อยากเป็นโรคผิวหนัง เรามีวิธีการป้องกันมาฝากกัน รับรองว่าได้ผลอย่างแน่นอน
- ดูแลรักษาความสะอาดอยู่เสมอ อาบน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง และควรอาบน้ำ หรือทำความสะอาดร่างกายหลังออกกำลังกายทุกครั้ง แต่หากว่าทำไม่ได้ อย่างน้อยให้เปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อลดความเปียกอับชื้น
- ไม่ใส่เสื้อผ้าซ้ำ โดยเฉพาะเสื้อผ้าที่เปียกชื้น หรือเหม็นอับ
- เลือกใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี แห้งไว ควรเลือกเสื้อผ้าที่ออกแบบมาเพื่อใส่ออกกำลังกายโดยเฉพาะ ที่มีคุณสมบัติในการระบายอากาศ ลดความอับชื้น
- ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า หรือผ้าเช็ดตัว
- ไม่ปล่อยให้ผิวเปียกชื้นเป็นเวลานาน ควรเปลี่ยนเสื้อผ้าหลังออกกำลังกายทันที
- ไม่สวมเสื้อผ้าที่รัดแน่นจนเกินไป ควรเลือกชุดชั้นในที่ทำมาจากเส้นใยธรรมชาติ