มิติใหม่เร่งให้แผลหายแบบมีตุ่มพองก่อนกลายเป็นแผล และแบบไม่มีตุ่มพองตามหลักการแพทย์แม่นยำ
ข้อมูลความรู้ทั่วไป
การหายของบาดแผล มี 2 มิติ ได้แก่
แผลทั่วไปจะเป็นแผลเปิด มีผลให้เกิดการอักเสบรอบๆ แผลอันเนื่องจากมีเซลล์ที่ตายแล้วอยู่ในแผลทำให้ภูมิคุ้มกันเข้าใจว่าเป็นเชื้อโรค ซึ่งต้องรักษาให้แผลปิด ด้วยการหยุดการอักเสบโดยการกำจัดเซลล์ที่ตายออกไปทำให้แผลปิดได้เร็วขึ้น
การอักเสบทำให้เกิดแผลได้อย่างไร
การอักเสบทำให้เกิดแผลได้ เมื่อการอักเสบนั้นรุนแรงมาก โดยแม้ยังมองไม่เห็นการอักเสบทำให้เซลผิวหนังตาย ภูมิคุ้มกันจึงเข้าใจว่าเซลล์ที่ตายคือสิ่งแปลกปลอมหรือเชื้อโรค การตายของเซลล์ผิวค่อยเป็นค่อยไปจะเกิดเป็นตุ่มพองขึ้นมา เช่น ตุ่มพองจากเริม, งูสวัด และน้ำร้อนลวก เมื่อตุ่มพองแตกแล้วจึงเกิดแผล
อาการที่มีการอักเสบจนเกิดแผล
อาการของการได้เกิดการอักเสบแล้ว มีได้ 3 ระยะ
ระยะ 1 อาจเริ่มด้วยแสบ เจ็บ ร้อน คัน ขึ้นกับเหตุของการอักเสบ
ระยะ 2 หลังจากนั้นตามาด้วยตุ่มพอง ร่วมกับการอักเสบบวมแดง
ระยะ 3 จากนั้นตุ่มพองอาจจะแห้งไป หรือแตกเป็นแผล มีการอักเสบของบาดแผลตามมา เหมือนกับบาดแผลทุกชนิด
การรักษาการเร่งให้แผลหายของแผลที่เกิดจากการอักเสบ
ผลิตภัณฑ์ต้องมีความแม่นยำถึง 3 ระยะ โดยหากแยกเป็นระยะจะคาดหวังผลดังนี้
- สามารถหยุดการอักเสบ ตั้งแต่ยังไม่มีตุ่มพอง อาจมีผลไม่ให้เกิดตุ่มพอง คือแผลหายโดยไม่เกิดแผลหรือเป็นแผล
- สามารถทำให้ตุ่มพองแห้งลงหรือมีขนาดเล็กกว่าที่ควรจะเป็น เมื่อตุ่มพองแตก แผลที่เกิด จะมีขนาดแผลเล็กหายเร็วเสมือนกับการเร่งให้แผลหาย ถ้ามีการทาผลิตภัณฑ์ตั้งแต่มีอาการ ผิวยังดูปกติ
- ลดการอักเสบของบาดแผลด้วยการเริ่มการกำจัดเซลล์ที่ตายแล้วออกไปผ่านตุ่มพอง ซึ่งแม้ไม่ได้ทาผลิตภัณฑ์ตั้งแต่ยังไม่มีตุ่มพองก็ยังช่วย ให้แผลหายเร็วขึ้นได้
สัญญาณที่แสดงว่าแผลใต้ตุ่มพองยังไม่หาย
- ถ้ายังไม่มีตุ่มพอง ถ้ายังมีการแสบเอง หรือทาผลิตภัณฑ์แล้วยังรู้สึกแสบ
- ถ้ามีตุ่มพองแล้ว แต่ยังไม่แตก สามารถใช้สัญญาณเดียวกับยังไม่มีตุ่มพอง และเพิ่มการสังเกตุว่าตุ่มยุบรายและแห้ง จนเห็นผิวมีลักษณะปกติ
- สำหรับที่มีการแตกเป็นแผล ซึ่งทางผลิตภัณฑ์แล้วยังรู้สึกแสบ เป็นสัญญาณแสดงว่าแผลยังไม่หาย
- ลักษณะที่แผลหายแล้ว คือผิวกลับมามีลักษณะปกติ
วิธีการทาผลิตภัณฑ์ที่พึงประสงค์
ทาผลิตภัณฑ์ทันที ทุกครั้งที่รู้สึกแสบโดยไม่ต้องสนใจว่ายังไม่มีอะไรที่ผิดปกติ และทาต่อเนื่องจนกว่าจะไม่มีการแสบแล้ว จึงลดการทางลงเหลือวันละ 2 ครั้ง จนกว่าผิดจะมีลักษณะเป็นปกติ
รู้จักเกี่ยวกับเริม (Herpes Simplex)
ข้อมูลความรู้ทั่วไป
ชื่อของ herpes เป็นชื่อของโรคที่ระบุลักษณะอาการจากความหมาย มาจากคำว่าอยู่กันเป็นกลุ่ม simplex หมายถึงทางโดยทั่วไป(มีผู้ที่เป็นโรคนี้จำนวนมาก)จนเป็นธรรมดา ภาษาไทยเรียกว่า “เริม” เกิดจากเชื้อไวรัสจึงให้ชื่อไวรัสนี้ว่า “herpes simplex”
โรคนี้จะเป็นซ้ำแล้วซ้ำอีกตำแหน่งที่เดิมที่เคยเป็น ทั้งนี้เพราะเมื่อเชื้อเข้าสู่ปลายประสาทที่ผิวหนังแล้วไปฝังตัวอยู่ที่โคนประสาทของปลายประสาทเส้นนั้นๆ รอจนกว่าปลายประสาทนั้นมีการกระตุ้นจากแสงแดด ปัญหาสุขภาพ ความเครียดและฮอร์โมน ฯลฯ มีผลให้เชื้อนี้ออกมาตามเส้นประสาทไปสู่ผิวหนังที่ปลายประสาทเส้นนั้น ทำให้เกิดการอักเสบที่ผิวหนังบริเวณนั้น แล้วกลับไปโดนประสาททันทีก่อนจะเห็นร่องรอยการอักเสบด้วย ที่ทำให้เซลผิวหนังตาย กลายเป็นตุ่มพอง (vesicles)
ดังนั้นกว่าจะรู้ตัวก็ให้ยาฆ่าเชื้อไม่ทันเสียแล้ว ไม่ว่าจะให้ยาทางผิวหนังหรือให้โดยการกินหรือการฉีดก็ตาม จึงมีผลให้ยังคงมีเชื้อ herpes simplex คงอยู่ตลอดเพราะมี LAT(Latency-associated Transcript)เป็นเกราะกำบัง และยาฆ่าเชื้อจึงไม่ได้ช่วยไม่ให้เกิดตุ่มพองและไม่ได้ช่วยให้หายเร็วขึ้น แต่ที่หายไปคือเงินที่จ่ายค่ายาที่หายไปจากกระเป๋า
เงินที่จ่ายจะได้ผลคุ้มค่าต้องใช้ผลิตภัณฑ์ที่พึงประสงค์ ให้แผลหาย ก่อนเกิดแผลได้ทันการณ์
กุญแจแห่งความสำเร็จ
ทาทันทีที่รู้สึกแสบ ทาทุกครั้งที่รู้สึกแสบ ทาจนกว่าจะไม่มีการแสบอย่างน้อย 1 – 2 วัน (เป็นสัญญาณแผลหายแล้ว)
แนะนำผลิตภัณฑ์
EAZI ASTRINZ GEL สมานผิวด้วยสารสกัดที่อ่อนโยน ผสานสารสกัดจากธรรมชาติปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดอาการแสบร้อนขณะทา
วิธีใช้
ทาวันละ 2 ครั้ง หรือทุกครั้ง ที่รู้สีกว่าแผลยังมีอาการ เริม-งูสวัด บ่อยเท่าใดก็ได้ ไม่ทำให้ผิวแห้ง จนกว่าอาการของแผลจะมีผิวใหม่มาปิดแล้ว
ส่วนผสมที่สำคัญ
Aqua, Alcohol, Magnesium Sulfate, Butylene Glycol, Lecithin, 1,2-Hexanediol, Zinc Gluconate, Xanthan gum, Panthenyl Triacetate, Hectorite, Arginine, Camellia Sinensis Leaf Extract, Naringenin, Niacinamide, Zingiber Officinale Root Extract, Aloe Barbadensis Leaf Juice, Maltodextrin, BHA, Rosmarinus Officinalis Extract, BHT, Tocopherol, Potassium Sorbate, Sodium Benzoate
คำเตือน
- ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
- สำหรับใช้ภายนอกเท่านั้น
- ระวังไม่ให้สัมผัสถูกดวงตา
- เก็บผลิตภัณฑ์ให้ห่างจากมือเด็ก
- เก็บในที่เย็นและหลีกเลี่ยงแสงแดด
0 Comments