แพทย์ในฟิลาเดลเฟีย เตือน ทำเล็บเจลถี่มากเกินไป อาจเสี่ยงเป็นมะเร็งผิวหนังได้
- แพทย์สาวในฟิลาเดลเฟีย เตือนสาวๆ และคนที่ชอบทำเล็บเจลให้ระมัดระวังการอบเล็บเจลในเครื่อง UV เพราะอาจจะเสี่ยงเป็นมะเร็งผิวหนังได้
- นักวิจัยได้ใช้วิธีการดูที่ผลกระทบของรังสี UVA ในระดับต่างๆ ต่อตัวอย่างเซลล์ต่างๆ ในห้องแล็บ พบความเสียหายของเซลล์ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ที่บ่งชี้ว่าอาจเป็นมะเร็ง
สาวๆ และคนยุคใหม่ แน่นอนว่าเรื่องความสวยความงามความแฟชั่นแฟใจมันไม่เข้าใครออกใครแน่นอน ยิ่งยุคปี 2023 นี้ เป็นยุคที่การทำเล็บเจล เป็นอะไรที่ฮอตฮิตมากๆ เพราะความสวยที่ติดทนนานหากเทียบกับการทาสีเล็บแบบธรรมดา แต่การศึกษาในห้องปฏิบัติการขนาดเล็กที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 17 มกราคมใน Nature Communications พบว่าการได้รับแสง UV ซ้ำๆ จากเครื่องอบเล็บแบบพิเศษที่ใช้สำหรับทำเล็บเจลอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งผิวหนัง
ในการศึกษาครั้งนี้ นักวิจัยได้ใช้วิธีการดูที่ผลกระทบของรังสี UVA ในระดับต่างๆ ต่อตัวอย่างเซลล์ต่างๆ ในห้องแล็บ ได้แก่ เซลล์ของหนู เซลล์หนังหุ้มปลายลึงค์ของมนุษย์ และเซลล์ผิวหนังของมนุษย์ที่โตเต็มวัย พวกเขาให้เซลล์แต่ละประเภทสัมผัสกับรังสี UVA 1-3 ครั้งเป็นเวลาสูงสุด 20 นาที จากนั้นประเมินเซลล์ 48 ชั่วโมงหลังจากได้รับรังสี UV ครั้งสุดท้าย
นักวิทยาศาสตร์พบความเสียหายของเซลล์ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ที่บ่งชี้ว่าอาจเป็นมะเร็ง ในทุกตัวอย่างที่สัมผัสกับแสง UVA นอกจากนี้ยังมีชนิดของออกซิเจนที่มีปฏิกิริยาในระดับสูง ซึ่งสามารถเร่งอายุผิว ทำให้เซลล์ตาย และส่งเสริมการเจริญเติบโตของเนื้องอกมะเร็ง แต่การศึกษานี้มีข้อจำกัดหลายประการ การศึกษาดำเนินการกับทั้งเซลล์ของมนุษย์และสัตว์ในห้องปฏิบัติการ ดังนั้นผลลัพธ์ที่ได้จึงอาจไม่ได้แปลเป็นความเสี่ยงในคนจริง การวิจัยในอนาคตจะต้องมีการพิสูจน์อย่างแน่ชัดว่าเครื่องอบเล็บ UV ทำให้เกิดมะเร็งผิวหนัง
แต่ทางด้าน Dr. Nazanin Saedi แพทย์ผิวหนังและรองศาสตราจารย์ด้านคลินิกที่ Thomas Jefferson University ในฟิลาเดลเฟีย ซึ่งไม่ได้มีส่วนร่วมในการศึกษานี้ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลสำหรับผู้ที่ทำเล็บเจล และเสริมว่า ก่อนการศึกษา มีรายงานกรณีของมะเร็งเซลล์สความัส [มะเร็งผิวหนังชนิดหนึ่ง] ที่เกิดขึ้นกับคนที่ทำเล็บเจลบ่อยๆ อีกด้วย
ใครก็ตามที่ต้องการลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งผิวหนังอาจต้องการจำกัดความถี่ในการทำเล็บเจลลง โดยเฉพาะบุคคลที่มีผิวขาวซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นมะเร็งผิวหนัง แต่ถ้าหากผู้คนยังคงต้องการทำเล็บเจลอยู่ ด็อกเกอร์สาวได้แนะนำให้ระมัดระวังเป็นพิเศษ เช่น ทาครีมกันแดด SPF15 หรือสูงกว่าที่มือ หรือสวมถุงมือป้องกันที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องผิวจากแสงยูวี แต่ผิวหนังรอบเนื้อใต้เล็บจะยังคงมีความเสี่ยงจากการสัมผัสรังสียูวีอยู่ดี
0 Comments