HOMEOSTASIS ดุลยภาพนี้ใครคงได้ คนนั้นก็มีแต่สุข

มาถึงบทความเรื่องนี้ผู้เขียนต้องขอตั้งสมมุติฐานว่าท่านผู้อ่านที่รักทั้งหลายได้อ่านและเข้าใจเรื่อง ”การสื่อสารของเซล(Cell Signaling)”

มาถึงบทความเรื่องนี้ผู้เขียนต้องขอตั้งสมมุติฐานว่าท่านผู้อ่านที่รักทั้งหลายได้อ่านและเข้าใจเรื่อง ”การสื่อสารของเซล(Cell Signaling)” กันไปแล้วนะครับ แต่ก็จะขอทบทวนและย้อนความสักเล็กน้อยว่า การสื่อสารของเซลนั้น ก็คือการที่เซลแต่ละเซลของเรามันพูดคุยสั่งงานกันนั่นเอง การที่มันพูดคุยสั่งงานกันก็เพราะเพื่อการทำงานอย่างสอดคล้องกันทุกอวัยวะ ทุกระบบ สมมุติว่าถ้ามันประสานงานกันไม่แม่นยำ ม่สอดคล้องกัน มันก็จะทำให้ร่างกายเราปั่นป่วน เสียสมดุลย์เกิดความผิดปกติ ในที่สุดก็เกิดโรคต่างๆตามมา ซึ่งถ้าจะให้เปรียบเทียบง่ายๆแล้วก็เสมือนว่า เซลแต่ละเซลก็เหมือนเป็นคนๆหนึ่ง บางคนก็พูดได้ภาษาเดียวบางคนก็หลายภาษาแล้วแต่คน และสารเคมีที่มันส่งออกมาก็เสมือนภาษานั่นเอง มันอาจจะส่งภาษาเดียว หรือหลายภาษาก็ได้ ส่วนเซลที่รับสารเคมีที่ส่งออกมาก็เหมือนผู้ฟังหรือผู้รับคำสั่ง ซึ่งก็จะฟังได้ภาษาเดียวหรือหลายภาษาก็ได้แล้วแต่….และเซลตัวเดียวกัน นั้นก็อาจจะเป็นได้ทั้งผู้สั่งและผู้รับคำสั่งได้อีกเช่นกัน….ยกตัวอย่างถ้าเราจะสั่งคนจีนเราก็ต้องสั่งด้วยภาษาจีน เฉพาะคนรู้ภาษาจีนก็จะเข้าใจ คนไม่รู้ก็ไม่เข้าใจ ทำนองนี้… จะเห็นได้ว่าการสื่อสารของเซลนั้นเป็นเครือข่ายที่ซับซ้อนมากจนน่าเวียนหัว แต่ขอบอกว่าระบบของเซลที่มันสื่อสารนั้นมีประสิทธิภาพสูงและแม่นยำมากกว่าเครือข่ายใดๆที่มีในโลกเสียอีก….มาถึงตอนนี้คุณผู้อ่านคงพอจะเห็นภาพรางๆแล้วนะครับว่าการสื่อสารของเซลก็จะต้องมีคือภ่าษา ซึ่งก็คือสารเคมีหรืออะไรก็ตามที่ส่งมาซึ่งเราจะเรียกมันว่า code หรือ signalก็ได้ code ที่ส่งออกมาก็แพร่มาที่เซลรับคำสั่งหรือเซลเป้าหมาย ซึ่งเซลเป้าหมายก็จะมีตัวรับคำสั่งเทียบแล้วก็เหมือนความสามารถในการเข้าใจในภาษาที่ส่งมา หรือเรียกง่ายๆตัวว่ารับ code เราเรียกตัวที่รับ code ว่า receptor มันจึงเป็นที่มาจองคำว่า “code-receptor” อย่างที่ได้ยินกันบ่อยๆนั่นเอง

PAN Dermacare แพนเดอร์มาแคร์ ผลิตภัณฑ์เพื่อดุลยภาพแห่งผิว สำหรับผิวบอบบางแพ้ง่าย และทุกสภาพผิว

คลิกเลย

เกริ่นมาค่อนข้างจะเยิ่นเย้อก็เพราะคุณผู้อ่านต้องเข้าใจในการสื่อสาระหว่างเซลก่อนมันถึงจะไปเรื่อง Homeostasis ได้ …การที่จะตอบว่า Homeostasis

คืออะไร…ผู้เขียน จะขอใช้ตัวอย่างให้เห็นชัดๆเกี่ยวกับ homeostasis อย่างหนึ่ง คือ การรักษาอุณหภูมิของร่างกาย ซึ่งอุณหภูมิปกติของร่างกายเรานั้นจะคงที่อยู่ทีประมาณ 37 องศาเซลเซียส ไม่ว่าเราจะไปอยู่ในที่ร้อนอย่างไรหรืออยู่ที่เย็นอย่างๆไรก็ตาม วัดกี่ทีมันก็ 37 องศา ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น????…นั่นก็เพราะร่างกายเราจะรักษาสมดุลของอุณหภูมิให้คงที่ตลอดเวลาเนื่องจากระบบปฎิกริยาเคมีในร่างกายเราจะดำเนินได้อย่างปกติร่างกายเราจะต้องอยู่ที่อุณหภูมิ 37 องศาเท่านั้น สูงกว่านี้หรือต่ำกว่านี้จะเกิดอาการรวนเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นเวลาเราอยู่ในที่เย็น เซลคณะที่ต้องทำงานร่วมกันในการควบคุมอุณหภูมิ มันก็จะคุยกันโว๊กว๊าก ให้ร่างกายสร้างความร้อนเพิ่ม กลไกหนึ่งก้คือมีการการสั่นของกล้ามเนื้อเพื่อสร้างความร้อน เพราะฉะนั้นเวลาอยู่ในที่เย็นคนเราก็มีการสั่นป๊าปๆเกิดขึ้น…หรือเมื่ออยู่ในที่ร้อน ร่างกายก็จะต้องเร่งการคลายความร้อนออกให้เร็วๆ กลไกหนึ่งที่ใช้ก็คือขับเหงื่อออกมาเพื่อระบายความร้อน เพราะฉะนั้นเมื่ออยู่ในที่ร้อน คนเราก็จะมีอาหการเหงื่อแตกพลั่ก ทั้งหมดนี้ก็เพื่อควบคุมอุณหภูมิของร่างกายให้คงที่ที่ 37 องศา จากตัวอย่างที่ยกมานี้ก็คงพอเห็นภาพแล้วว่า Homeostasis มันก็คือการที่เซลทุกเซลพยามยามที่จะรักษาดุลภาพของมันไว้ให้ค่อนข้างคงที่ โดยมันจะทำงานประสานการทำงานร่วมกันทุกระดับตั้งแต่ระดับเซลจนถึงระดับอวัยวะ ผลจากการควบคุมดุลยภาพนี้นี้ก็จะทำให้เรามีสุขภาพที่ดี ทั้งกายและใจ รวมถึงการมีพลังชีวิตที่เต็มเปี่ยมพร้อมที่จะเผจิญกับทุกๆสิ่งอย่างมีประสิทธิภาพ

Homeostasis

Homeostasis

มาถึงตอนนี้คุณผู้อ่านทุกท่านอาจจะสงสัยว่า ในเมื่อเซลทำหน้าที่รักษาดุลภาพ Homeostasis ได้เองแล้ว เราจะไปยุ่งกับมันทำไม????

อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า สิ่งสำคัญของการควบคุม homeostasis ก็คือ การสื่อสารระหว่างเซล ซึ่งก็คือระบบ code-receptor นั่นเอง ถ้ามีอะไรมารบกวนระบบ นี้ได้ มันก็ทำให้การสื่อสารระหว่างเซลผิดเพี้ยนไปได้ ซึ่งสิ่งที่จะมารบกวนนี้ก็มีได้หลายสาเหตุ ซึ่งจะขอเกริ่นแค่คร่าวๆพอเป็นน้ำจิ้มหน่อยก็แล้วกัน

ยกตัวอย่างกรณีมี code ที่แปลกปลอมเข้ามาในร่างกายซึ่งก็อาจจะมาจากสิ่งแวดล้อม มลภาวะ เชื้อโรค สารเคมี ยา อาหารที่ทานเข้าไป…code แปลกปลอมเหล่านี้จะทำการกระตุ้น receptor ให้ทำงานมากเกินไป มันก็จะมีความผิดปกติได้ ในทางตรงข้าม ถ้า code แปลกปลอมเข้าไป block receptor มันก็มีผลทำให้หยุดทำงานได้เช่นกัน

เราเรียกการกระตุ้น Code Boost

ส่วนการ การบล็อก ว่า Code Block

แต่ทุกอย่างในโลกนี้ล้วนแต่มี 2 ด้านเสมอ ความรู้เรื่อง Code Boost & Code Block ก็มีประโยชน์ในกรณีที่ร่างกายมีความบกพร่องในเรื่อง

Homeostasis เช่น มี code น้อยเกินไป เราก็ทำการ boost มัน ทำให้มันรักษา Homeostais ไว้ได้ หรือถ้ามันมากเกินไป เราก็ทำการ block มันซะ มันก็สามารถกลับมาสู homeostasis ได้

เมื่อไม่นานนี้ผู้เขียนได้มีโอกาสไปงานสัมมนา เรื่อง “New Era Of Cell Signaling: Code Block & Code Boost” :ซึ่งวิทยากรทีมานั้นเป็นผู้ทรงความรู้ทางการแพทย์หลายๆแขนง จากการสัมมนาครั้งนี้ ทำให้ผู้เขียนทราบว่าไม่เฉพาะความผิดปกติทางผิวหนังเท่านั้นที่มีสาเหตุมาจากการเสีย Homeostasis แต่ก็พบว่ายังมีโรคทางสมอง โรคทางกระดูก และอีกหลายๆโรคก็เป็นเพราะการเสีย Homeostasis ไปด้วยเช่นกัน

ผู้เขียนเชื่อว่าในอนาคตอันใกล้นี้ การค้นพบเรื่องการเสีย Homeostasis จนทำให้เกิดความผิดปกติหรือเกิดโรคขึ้นมานั้นจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ วงการแพทย์จะต้องหันมาให้ความสนใจในเรื่องการปรับดุลยภาพหรือ Homeostasis กันอย่างเต็มที่.

คงจะพอที่จะสรุปได้ว่า การคงดุลยภาพ (Homeostasis) นั้นใครทำได้ก่อน คนนั้นก็จะมีสุขภาพที่ดีและมีความสุข

PAN Dermacare แพนเดอร์มาแคร์ ผลิตภัณฑ์เพื่อดุลยภาพแห่งผิว สำหรับผิวบอบบางแพ้ง่าย และทุกสภาพผิว

คลิกเลย