“จุดด่างดำ” (Hyperpigmentation) ที่เกิดจากการอักเสบของผิว
รอยแดงและรอยดำคือร่องรอยที่หลงเหลือไว้หลังจากการเป็นสิวอักเสบ สร้างความไม่มั่นใจกับคนเป็นสิวยิ่งนัก ยิ่งโดนแดดยิ่งดำขึ้นไปอีก แต่รอยดำสามารถจางลงเองได้ในเวลาไม่กี่สัปดาห์ หรือบางคนอาจนานหลายเดือน
รอยแดงรอยดำหลังการอักเสบเกิดจากอะไร
แท้ที่จริงแล้ว รอยดำหลังจากการอักเสบ หรือ Post-inflammatory Hyperpigmentation (PIH) เกิดขึ้นเมื่อเกิดการอักเสบของเซลล์ผิวหนัง ร่างการจะสร้างสารเคมีที่ทำให้เกิดปฏิกิริยาการอักเสบขึ้น ซึ่งสารเหล่านี้จะไปกระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดสี ทำให้ผลิตเม็ดสีเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะหากยิ่งเมื่อรับแสงแดดโดยตรงก็จะยิ่งทำให้รอยดำคล้ำขึ้น เช่น เป็นสิวอักเสบก็จะเกิดรอยแดงและกลายเป็นรอยดำตามมา ซึ่งหากเกิดเป็นรอยดำแล้ว ก็จะเป็นเรื่องยากที่จะปล่อยให้รอยนั้นจางลงเองตามธรรมชาติ
รอยดำจะเป็นนานแค่ไหน เราป้องกันได้หรือไม่
โดยทั่วไปรอยจะจางหายไปในเวลาไม่กีสัปดาห์ แต่บางคนอาจนานประมาณ 6-12 เดือน ควรหลีกเลี่ยงไม่ให้รอยดำถูกแสงแดดโดยตรง หรือหากต้องมีการออกแดดกลางแจ้ง หรือต้องไปปฏิบัติงานท่ามกลางแสงแดด ก็ควรจะทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไปอยู่เสมอ
การรักษารอยดำหลังการอักเสบ
รอยดำหลังการอักเสบสามารถหายเองได้เพียงแต่ต้องรอเวลาให้หายเองตามกระบวนการธรรมชาติ ใครรอไม่ไหวก็สามารถหาตัวช่วยที่ทำให้รอยดำนั้นจางลงเร็วขึ้นได้ ซึ่งปัจจุบันก็มีหลายวิธีที่เป็นตัวช่วย เช่น
- การทายาลบรอย จริงๆแล้วการใช้ยาทาลบรอยดำนั้น หากต้องการใช้เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการออกไปข้างนอกก็สามารถทำได้ แต่ควรระวังในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เพราะการทายาลบรอยดำจะมีความแตกต่างระหว่างยาทาผิวบนใบหน้าและผิวที่ตัว เนื่องจากผิวบนใบหน้าจะละเอียด บอบบาง แพ้ง่าย เป็นสิวง่าย ดังนั้น ยาทาลบรอยดำบนใบหน้าควรเลือกส่วนประกอบที่มีความปลอดภัยสูงกว่าผิวที่ตัว
- การทำทรีทเมนท์ การทำทรีทเมนท์บางตัวก็จะช่วยลดรอยดำให้หายเร็วขึ้น อาทิ การทำไอออนโต (Ionto) หรือคลื่นกระแสไฟฟ้าที่ช่วยผลักวิตามินเข้าผิว และช่วยในการผลัดเซลล์ผิวและทำให้รอยดำจางลง
- การทำเลเซอร์ หากรอยยังแดงๆอยู่ สามารถทำเลเซอร์ E-Lase ที่ทำปฏิกริยากับฮีโมโกบิน ช่วยทำให้รอยจางลงเร็วขึ้น สามารถทำได้โดยไม่ต้องรอให้กลายเป็นรอยดำก่อน หรืออาจทำร่วมกันกับทรีทเมนท์ ก็จะยิ่งเห็นผลการรักษาดียิ่งขึ้น
0 Comments