8 วิธีลดหน้ามัน รูขุมขนกว้าง หยุดปัญหาหน้ามันระหว่างวัน

ผิวมันเป็นผลมาจากต่อมไขมันทำงานมากเกินไป ซึ่งต่อมไขมันเหล่านี้จะหลั่งสารคล้ายขี้ผึ้งหรือน้ำมันที่เรียกว่าซีบัม แม้ว่าซีบัมจะมีความสำคัญต่อการปกป้องผิว ช่วยให้ผิวสุขภาพดี และช่วยเก็บกักความชุ่มชื้น แต่การมีซีบัมมากเกินไปอาจทำให้เกิดปัญหาผิวมันและรูขุมขนอุดตันได้ และอาจส่งผลให้เกิดสิวได้ในที่สุด

สาเหตุที่ทำให้เกิดผิวมัน

  • กรรมพันธุ์ – ผิวมันอาจเกิดขึ้นได้จากกรรมพันธุ์ หากพ่อแม่หรือคนใดคนหนึ่งในครอบครัวมีประวัติผิวมัน ก็อาจส่งผลมาถึงคุณได้
  • อายุ – วัยรุ่นและวัยหนุ่มสาวมักเป็นช่วงอายุที่มีผิวมันมากกว่าวัยอื่น แต่เมื่ออายุมากขึ้นก็มักจะมีความมันบนผิวน้อยลง แต่เหนทอสิ่งอื่นใดการมีผิวมันสามารถช่วยชะลอความชราของผิวได้ เนื่องจากจะช่วยรักษาความชุ่มชื้นของผิวได้เมื่อเทียบกับผิวแห้ง
  • สภาพภูมิอากาศ – หากสภาพอากาศในบริเวณที่อาศัยอยู่มีลักษณะร้อนชื้น ผิวของเราก็อาจมีแนวโน้มที่จะผลิตน้ำมันออกมามากขึ้น และนอกจากนี้ผิวของคุณก็มีจะความมันมากขึ้นในฤดูร้อนเมื่อเทียบกับฤดูหนาว
  • รูขุมขนขยาย – อายุที่มากขึ้น การเกิดสิวผด และน้ำหนักตัวที่ขึ้นๆ ลงๆ อาจทำให้รูขุมขนขยายใหญ่ขึ้น ซึ่งรูขุมขนที่ขยายใหญ่ขึ้นสามารถทำให้ผิวของคุณผลิตน้ำมันมากขึ้น สังเกตได้ว่าคนผิวมันส่วนใหญ่มักมีรูขุมขนกว้าง
  • ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ไม่ถูกต้อง – บางคนอาจเข้าใจผิดว่าผิวของตัวเองนั้นเป็นผิวแห้งทั้งที่จริงอาจเป็นลักษณะของผิวผสม ซึ่งการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ถูกกับประเภทของผิวอาจทำให้ผิวกักเก็บน้ำมันมากขึ้นและอาจนำไปสู่การอุดตันของรูขุมขน
  • มีกิจวัตรการดูแลผิวที่ผิด – ผู้ที่มีผิวมันบางคนอาจจะล้างหน้าจนรู้สึกตึงบริเวณผิว เพราะเข้าใจไปว่าการล้างหน้าแบบนี้จะช่วยให้ผิวสะอาด ซึ่งการทำเช่นนี้จะเป็นเพียงแค่การบรรเทาผิวได้ชั่วคราวเท่านั้น เพราะในความเป็นจริงอาจทำให้ผิวต้องผลิตน้ำมันมากขึ้นเพื่อชดเชยความชุ่มชื่นที่สูญเสียไป

8 วิธีลดหน้ามัน รูขุมขนกว้าง

PAN Pcosmed ศูนย์รวมโซลูชั่นด้านผิวหนังครบวงจร

Homemade Cleansers For Oily Skin

1. ล้างหน้าให้ถูกวิธี

ล้างหน้าด้วยน้ำเย็นและเลือกใช้คลีนเซอร์ที่อ่อนโยน โดยควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าแบบที่มีค่า pH สมดุลเพื่อป้องกันไม่ให้ผิวขาดความชุ่มชื้นมากเกินไปและอย่าล้างหน้าบ่อยเกินไป นอกจากนี้ ยังควรหลีกเลี่ยงการใช้สบู่ที่มีกลิ่นหอมแรงเพราะน้ำหอมหรือแอลกอฮอล์อาจทำให้ผิวผลิตน้ำมันมากขึ้น

2. ลดการดื่มแอลกอฮอล์

การดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำสามารถทำลายหลอดเลือดได้ และอาจทำให้หลอดเลือดรวมถึงต่อมไขมันขยายตัว ซึ่งทำให้รูขุมขนของผิวหนังขยายใหญ่ขึ้นด้วย การลดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สามารถส่งผลให้ผิวมันลดลงได้ และอาจส่งผลให้ปัญหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับผิวมันลดลงตามได้ด้วย

3. เปลี่ยนอาหาร

สถาบันผิวหนังของอเมริกา (American Academy of Dermatology) แนะนำว่าอาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูงอาจกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการอักเสบและเกิดการผลิตไขมันมากขึ้น เนื่องจากอาหารและเครื่องดื่มเหล่านี้อาจทำให้น้ำตาลในเลือดพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ผู้ที่มีผิวมันควรพยายามเน้นทานอาหารที่มีค่าน้ำตาลต่ำ เช่น ผักสด ผลไม้สดที่ไม่หวานมาก ถั่วและพืชตระกูลถั่ว ข้าวโอ๊ตและธัญพืชเต็มเมล็ด

4. ลดความเครียด

ความเครียดสามารถกระตุ้นการปล่อยฮอร์โมนคอร์ติซอลที่มีส่วนในการผลิตซีบัม และเป็นผลให้เกิดความมันบนผิว ดังนั้นการลดความเครียดจึงอาจช่วยลดการผลิตน้ำมันในผิวหนังได้ โดดยเราสามารถใช้กิจกรรมต่างๆ เพื่อลดความเครียดได้ เช่น เล่นโยคะ ฝึกสมาธิ หลีกเลี่ยงนิโคตินหรือแอลกอฮอล์ นอนหลับ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

5. ให้ความชุ่มชื้นกับผิวอย่างสม่ำเสมอ

บางคนอาจคิดว่ามอยส์เจอร์ไรเซอร์จะเพิ่มปริมาณน้ำมันบนผิวหรือทำให้รูขุมขนอุดตัน แต่ในความเป็นจริงมอยส์เจอไรเซอร์ที่ปราศจากส่วนผสมของน้ำมันจะไม่ก่อให้เกิดการอุดตันและยังจะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นขึ้นด้วย สำหรับผู้ที่มีผิวมัน ลองใช้มอยส์เจอไรเซอร์สูตรที่เข้มข้นขึ้นในตอนกลางคืน และเปลี่ยนจากครีมเนื้อหนักเป็นเซรั่มหรือเจล

6. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีชาเขียว

สารต้านอนุมูลอิสระโพลีฟีนอลในชาเขียวสามารถช่วยรักษาสภาพผิวต่างๆ รวมถึงผิวที่มีความมันได้ด้วย เนื่องจากสารโพลีฟีนอลในชาเขียวอาจช่วยลดการหลั่งไขมัน โดยผู้ที่มีผิวมันอาจลองเลือกใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ โทนเนอร์ หรือผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากชาเขียว

7. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีกรดซาลิไซลิก

กรดซาลิไซลิกสามารถช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ช่วยขจัดน้ำมันส่วนเกิน และสิ่งสกปรกอื่นๆ ที่ตกค้างให้ออกจากผิวได้ และเพื่อให้เกิดผลลัพท์ที่ดี ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ขัดผิวที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิก ขัดผิวหน้าเบาๆ เป็นวงกลมเล็กๆ ประมาณ30 วินาทีหรือน้อยกว่าโดยใช้น้ำเย็น และควรทำเป็นประจำทุกสัปดาห์

8. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีไนอาซินาไมด์

ไนอาซินาไมด์เป็นอนุพันธ์ของวิตามินบี 3 สามารถช่วยลดอัตราการขับไขมันและลดปัญหาผิวมันได้ จากงานวิจัยที่ตีพิมพ์ลงใน Pubmed พบว่าผู้ใช้ผลิตภัณฑ์เฉพาะที่มีไนอาซินาไมด์ 2% มีอัตราการผลิตซีบัมลดลงอย่างมากหลังจากใช้ติดต่อกัน 2 – 4 สัปดาห์