กลาก เกลื้อน ต่างกันยังไง? ดูให้เป็น รักษาให้ถูก

1 min read

บทความ: กลาก เกลื้อน ต่างกันยังไง? ดูให้เป็น รักษาให้ถูก

บทนำ

“กลาก เกลื้อน” เป็นคำที่หลายคนเคยได้ยินและมักจะใช้แทนกันไปมาโดยไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วสองคำนี้ไม่ได้หมายถึงโรคเดียวกัน กลาก กับ เกลื้อน มีลักษณะและสาเหตุที่ต่างกัน รวมถึงแนวทางการรักษาที่ไม่เหมือนกัน หากวินิจฉัยผิด อาจทำให้การรักษาไม่ได้ผลและอาการลุกลามได้ง่าย บทความนี้จะช่วยให้คุณแยกแยะความแตกต่างระหว่างกลากกับเกลื้อนได้อย่างชัดเจน พร้อมวิธีดูแลและรักษาให้เหมาะสม

1. กลากคืออะไร?

กลาก (Tinea corporis) เป็นโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อราในกลุ่ม Dermatophytes พบได้บ่อยบริเวณผิวหนังทั่วไป มีลักษณะเด่นคือ:

  • ผื่นเป็นวงกลมหรือวงรี
  • ขอบแดงนูน คันมาก
  • ตรงกลางผื่นอาจมีสีซีดหรือแห้งลอก

2. เกลื้อนคืออะไร?

เกลื้อน (Tinea versicolor) เกิดจากเชื้อยีสต์ที่ชื่อ Malassezia ซึ่งเป็นเชื้อราที่มีอยู่แล้วบนผิวตามธรรมชาติ แต่เมื่อมีความชื้นหรือไขมันผิวมากขึ้น อาจทำให้เชื้อเจริญเติบโตผิดปกติและก่อให้เกิดเกลื้อนได้ ลักษณะของเกลื้อนคือ:

  • ผื่นแบน สีขาวหรือสีคล้ำ
  • ไม่คันหรือคันเล็กน้อย
  • พบบ่อยที่หน้าอก หลัง คอ ไหล่

3. สาเหตุที่กระตุ้นกลากและเกลื้อน

กลาก:

  • สัมผัสเชื้อจากสัตว์เลี้ยง หรือใช้ของร่วมกัน
  • ความอับชื้น เหงื่อสะสม
  • ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ

เกลื้อน:

  • อากาศร้อน ความชื้นสูง
  • ต่อมไขมันทำงานมาก
  • ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผิวมันเกินไป

4. การวินิจฉัยที่ถูกต้อง

  • การสังเกตลักษณะผื่นด้วยตาเปล่า
  • ตรวจด้วยกล้องขยายหรือ Wood’s lamp
  • ขูดผื่นไปตรวจเชื้อด้วยกล้องจุลทรรศน์

5. แนวทางการรักษากลาก

  • ใช้ยาทาฆ่าเชื้อรา เช่น Clotrimazole, Terbinafine
  • กรณีรุนแรงอาจต้องกินยาต้านเชื้อรา
  • รักษาความสะอาด หลีกเลี่ยงความอับชื้น

6. แนวทางการรักษาเกลื้อน

  • ใช้ยาทาฆ่าเชื้อยีสต์ เช่น Selenium sulfide, Ketoconazole
  • อาจใช้แชมพูยาในบริเวณลำตัว
  • หลีกเลี่ยงการใช้โลชั่นหรือครีมที่มันเกินไป

7. การป้องกันกลากและเกลื้อน

  • เปลี่ยนเสื้อผ้าเมื่อมีเหงื่อออก
  • ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น
  • ดูแลผิวให้แห้งและสะอาด
  • หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่อุดตันรูขุมขน

8. ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับกลาก เกลื้อน

  • “เกลื้อนคือผิวขาว”: จริงๆ แล้วเกลื้อนอาจทำให้ผิวเข้มหรือซีดกว่าปกติ
  • “กลากติดต่อไม่ได้”: กลากสามารถติดต่อได้โดยการสัมผัส

9. เมื่อไหร่ควรพบแพทย์

  • รักษาเองแล้วไม่หายภายใน 2 สัปดาห์
  • ผื่นลุกลาม กว้างขึ้น หรือมีอาการอักเสบรุนแรง
  • มีภาวะแทรกซ้อน เช่น แผลพุพอง น้ำเหลืองไหล

สรุป: กลากและเกลื้อนต่างกันอย่างชัดเจน

แม้คำว่า กลาก และ เกลื้อน จะฟังดูคล้ายกัน แต่แท้จริงมีความต่างทั้งในด้านสาเหตุ ลักษณะ และวิธีรักษา การแยกแยะให้ชัดเจนจะช่วยให้การดูแลรักษาได้ผลดีและลดความเสี่ยงการลุกลามของโรคผิวหนังได้ในระยะยาว


บทความนี้จัดทำเพื่อการให้ความรู้เบื้องต้นเท่านั้น หากอาการไม่ดีขึ้นควรพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

0 Comments

Submit a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Pure inspiration, zero spam ✨